บายศรีปากชาม หมายถึง บายศรีที่ทำจากใบตองแล้วจัดวางลงบนชามหรือถ้วย จึงถูกเรียกว่า "บายศรีปากชาม" ใช้ในพิธีบูชาฤกษ์ พิธีนพเคราะห์ พิธีบวงสรวง สังเวย ซึ่งบายศรีปากชามส่วนใหญ่มักใช้เป็นเครื่องตั้งประธานในหมู่เครื่องสังเวย
ปัจจุบันวิธีการทำบายศรีปากชามมีมากมายหลายแบบ ขึ้นอยู่กับฝีมือและไอเดียของผู้จัดบายศรี โดยแต่เดิมยอดกรวยบายศรีจะประดับด้วยไข่ไก่ต้ม หากถวายเป็นเครื่องบวงสรวงแด่เทพที่ไม่เสวยเนื้อสัตว์จะใช้เป็นดอกบัวแทน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการใช้ดอกดาวเรืองแทนดอกบัวด้วยเช่นกัน
อุปกรณ์ทำบายศรีปากชาม
1. ใบตองกล้วยตานี ควรใช้ใบสีเขียวเข้ม เนื้อมัน เพราะเหนียวนุ่มหนา เหมาะสำหรับม้วนและพับเป็นรูปทรง
2. ขันโตกปิดทองขนาด 6 นิ้ว หรือ 8 นิ้ว
3. โฟมรองพื้นขันโตก
4. น้ำมันมะกอกสีเหลืองหรือขาว
5. ไม้จิ้มฟัน 20 - 30 อัน
6. ดอกรัก 60 ดอก
7. กรรไกร
8. แม็กซ์และลวดเย็บกระดาษ
9. กระดาษแข็งสำหรับตัดกลีบบัว
10.ลวดสำหรับดามกลีบบัว 4 เส้น
11. ผ้าขนหนู
12. กลีบกุหลาบหรือกลีบกล้วยไม้
สั่งซื้อขันโตกปิดทอง: คลิก
วิธีทำบายศรีปากชาม
1. เตรียมใบตองทำบายศรีปากชาม
นำผ้าขนหนูเช็ดทำความสะอาดใบตอง โดยเช็ดตามรอยเส้นใบเท่านั้น ห้ามเช็ดขวางหรือเช็ดกลับไปมา เพราะใบตองจะช้ำและแตก เมื่อเช็ดจนสะอาดให้พับหลวม ๆ ซ้อนเรียงกันไว้
2. ฉีกใบตองทำบายศรีปากชาม
2.1 ใบตองสำหรับกรวยกลาง ฉีกกว้าง 24 นิ้ว จำนวน 3 แผ่น
2.2 ใบตองสำหรับนิ้วนาง ฉีกกว้าง 3 นิ้ว จำนวน 36 แผ่น
2.3 ใบตองสำหรับห่อนิ้วนาง ฉีกกว้าง 1.5 จำนวน 32 แผ่น
2.4 ใบตองสำหรับกลีบบัว ฉีกกว้าง 4 นิ้ว จำนวน 8 แผ่น
2.5 ใบตองสำหรับกลีบผกา ฉีกกว้าง 1 นิ้ว ยาว 3.5 นิ้ว จำนวน 120 แผ่น
3. พับกรวยกลางบายศรีปากชาม
นำใบตองข้อ 2.1 มาวางสลับหัวหางซ้อนกันตามรูป จากนั้นม้วนใบตองทั้งสามใบเข้าด้วยกันให้กลายเป็นกรวยปลายแหลม สูง 15 นิ้ว เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว เย็บแล้วตัดขอบให้เรียบเสมอกัน
4. พับนิ้วบายศรีปากชาม
นำใบตองข้อ 2.2 มาม้วนพร้อมโดยมีดอกพุดอยู่ตรงปลายนิ้ว พันพร้อมกัน เย็บให้เรียบร้อย ทำไปจนครบ 36 ชิ้น
5. ประกอบนิ้วบายศรีปากชาม
นำนิ้วบายศรี 2 ชิ้นวางซ้อนห่างกัน 1 ซม. แล้วนำใบตอง 2.3 รองด้านล่าง โดยให้นิ้วบายศรีอยู่กึ่งกลาง พับใบตองฝั่งขวาหรือขวาลงมา
จากนั้นใช้นิ้วชี้ดันใบตองขึ้นมาให้คล้ายจีบตามรูปแล้วเย็บ
พับแบบเดียวกันกับอีกฝั่ง
ห่อนิ้วบายศรีเป็นชั้นไปเรื่อย ๆ จนประกอบเป็นแพครบ 9 นิ้ว
6. เย็บใบบัวบายศรีปากชาม
นำใบตองข้อ2.4 จำนวน 2 แผ่นวางซ้อนกันเป็นรูปตัวที (T)โดยหงายด้านสีอ่อนหรือนวลใบตองขึ้น
พับใบตองแผ่นล่างมาทางขวา และพับใบตองด้านบนลง โดยขอบทุกด้านต้องเสมอกัน เย็บติดตรงกึ่งกลาง
ตัดกระดาษเเข็งเป็นรูปใบบัว ทาบตัดบนใบตองตามแบบ
ดัดลวดเป็นตัวยู (U) เสียบเข้าไปในกลีบบัว แล้วเย็บด้านบนลวด และด้านขาล้วนสองข้างให้ตรึงติดกับใบบัว ทำให้ได้ทั้งหมด 4 ใบ
นำใบตองข้อ 2.5 มาพันเป็นกลีบผกาโดยมีลักษณะปลายยอดแหลมเหมือนนิ้วบายศรี แล้วนำไปสวมที่ยอดกลีบใบบัว แล้วเย็บให้แน่น
นำใบตองข้อ 2.5 พับเข้าหากันแบบ 90 องศาจรดกันที่กึ่งกลาง ลักษณะคล้ายหลังคาบ้าน แล้วพับทบเข้าหากัน จากนั้นเสียบเข้ากับใบบัว
พับปลายใบทบกลับไปทางขวา เย็บตรึงทั้งหน้าและหลัง
ทำไปเรื่อย ๆ จนครบรอบใบบัวทั้ง 4 อัน
7. แต่งใบบัวบายศรีปากชาม
เลือกเด็ดส่วนที่เป็นปากกลัวยไม้ออกมา
ม้วนปากกลัวยไม้แล้วเย็บติดกับกลีบบัว
ทำไปทีละชั้นจนเต็มใบบัว
8. ทำมาลัยดอกรักเกลียวประกอบบายศรีปากชาม
เด็ดดอกรักออกทีละกลีบ
นำใบตองมาพับเป็นสี่เหลี่ยมรองฐาน จากนั้นร้อยดอกรักลงไปโดยเสียบบริเวณปลายดอกรัก
ร้อยเหลื่อมกันไปเรื่อย ๆ คล้ายบันไดวนจนได้ความยาวที่ต้องการ
นำเชือกฟางหรือด้ายร้อยใส่รูเข็มร้อยมาลัย แล้วนำใบตองมาพับเป็นฐานสี่เหลี่ยมเสียบประกบด้านบน
ค่อย ๆ กดใบตองลง ให้ดอกรักที่ร้อยเสร็จแล้วติดกัน
ใช้มือ1 ข้างประคองส่วนของดอกรัก แล้วนำคีมคีบร้อยมาลัยรูดดอกรักให้อยู่ที่เชือกฟางหรือด้ายที่ร้อยไว้กับเข็ม ผูกให้เป็นวงกลม
9. ประกอบบายศรีปากชาม
ตัดโฟมให้เล็กกว่าขันโตกปิดทองที่เลือกใช้ประมาณครึ่งนิ้ว ตัดใบตองให้เท่ากับแผ่นโฟมแล้วเย็บติดกัน
นำกรวยวางตรงกลาง แล้วนำไม้จิ้มฟันยึดรอบกรวย 4 มุม
วางนิ้ว 9 ชั้นลงไปทั้ง 4 ด้าน สลับกับกลีบบัวลงไปบนบายศรีปากชาม
เสียบมาลัยดอกรัก และแต่งด้วยดอกไม้รอบกรวยของบายศรีปากชาม
แต่งปลายยอดบายศรีปากชามด้วยดอกดาวเรืองหรือดอกบัวเป็นอันสมบูรณ์